 |
| นาข้าวที่อ.ชะอำ เพชรบุรี มีภูมิปัญญาให้เรียนรู้เยอะเลย ข้างหลังผมเป็นเขานางพันธุรัตน์ เหมือนยักษ์นอนมั๊ยครับ? |
ชื่อ: เฟื่องรัฐ เป็นศิริ
อายุ: 32 ปี
การศึกษา: เศรษฐศาสตร์บัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Master of Finance, University of Freiburg i.Br., Germany
ประสบการณ์: สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง
บมจ. ธนาคารไทยพาณิชย์
Morali Produktionstechnik GmbH.
Optimus Soft Co., Ltd.
งานอดิเรก: ท่องเที่ยว ถ่ายภาพ วาดรูป งานอาสาสมัคร ทำอาหาร ปลูกต้นไม้ และอื่น ๆ อีกหลายอย่างครับ
e-mail: fuangratha@live.de
ร่ำเรียนมาทางด้านเงิน ๆ ทอง ๆ ทำไมถึงเสนอไอเดียด้านศิลปะวัฒนธรรม?
จริง ๆ เสนอไอเดียในหมวดอื่น ๆ ด้วย แต่ไม่ได้รับการคัดเลือกครับ : ( แต่ในจำนวนไอเดียที่เสนอทั้งหมด 11 ไอเดีย ผมตั้งใจและตั้งความหวังกับ "ถนนสายภูมิปัญญา" ที่สุด ไอเดียนี้จริง ๆ เป็นมุมมอง"เศรษฐศาสตร์การเมือง"ครับ มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ชุมชนท้องถิ่นของไทยมีความเข้มแข็งและสามารถพึ่งพาตนเองได้ในเชิงเศรษฐกิจ การที่เค้าจะมีความเข้มแข็งทางทางเศรษฐกิจได้ต้องอาศัย "ทุน" ที่ผ่านมาเรามักจะมองที่เงินทุนมากกว่า เราเอาเงินให้ชุมชนท้องถิ่น แต่เราไม่เน้นการพัฒนาทุนที่สำคัญที่สุดของเค้าคือ ทุนที่เป็นองค์ความรู้ของเค้าเอง ไม่ว่าจะเป็นภูมิปัญญา หรือประเพณีวัฒนธรรม เหมือนกับคำพูดเท่ ๆที่ว่า " ให้ปลาให้ข้าวเค้า แต่ไม่สอนให้เค้าเลี้ยงปลาหรือปลูกข้าว "
ถนนสายภูมิปัญญา นี้ต้องการฟื้นฟู อนุรักษ์และปกป้องทุนทางภูมิปัญญาและวัฒนธรรมของท้องถิ่น ที่ผ่านมารัฐบาลก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อยู่ครับ แต่เหมือนกับว่าใครจะทำก็ทำ ไม่เป็นระบบ ระเบียบ ถนนสายภูมิปัญญาพยายามช่วยแก้ปัญหาด้วยการใช้ "ศิลปะ" เป็นเครื่องมือ ออกจะเป็นแนวทางใหม่เสียหน่อย แต่ในประวัติศาสตร์โลก ศิลปะถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อแก้ปัญหาสังคม การเมืองมาโดยตลอด
ด้วยความที่ผมชอบศิลปะอยู่แล้ว ในชั้นมัธยมผมก็เรียนศิลปะมาโดยตลอด อยู่มหาวิิทยาลัยผมก็ชอบไปนั่งอ่านหนังสือที่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ หรือโซนศิลปะ พออ่านหนังสือเศรษฐศาสตร์ หรือเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ มาก ๆ แล้วเครียด หัวไม่แล่น คิดอะไรไม่ออก ผมก็นั่งขีด ๆ เขียน ๆ วาดภาพเล่น ไม่ก็หยิบหนังสือศิลปะมาอ่าน สักครู่ก็กลับมาอ่านหนังสือเศรษฐศาสตร์ต่อได้ ดังนั้นศิลปะจึงเป็นเครื่องมือบริหารสมองอีกซีกหนึ่งของผมมาโดยตลอด ผมเลยคิดว่าศิลปะ หรือ "ประติมากรรมภูมิปัญญา" นอกจากจะเป็นเครื่องมือในการ ฟื้นฟู อนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นแล้ว ยังจะช่วยเติมเต็มชีวิตอีกด้านหนึ่งของคนไทย และทำให้คนไทยหันมาสนใจศิลปะมากขึ้น และเมื่อนั้นอาชีพด้านศิลปะในเมืองไทย คงจะเฟื่องฟูเหมือนในประเทศที่พัฒนาแล้วครับ
